กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจับมือ LINE MAN Wongnai จัดสัมมนาออนไลน์ by DBD ครั้งแรกปี 66 วันที่ 26 ม.ค.นี้ ภายใต้หัวข้อ “LINE MAN MART ขายได้ทุกอย่าง ช่องทางขายใหม่ บริการส่งไว ดันยอดขายโตขึ้นเฉลี่ย 3 เท่า” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโชวห่วย ปรับตัวสู่ยุคการค้าออนไลน์ ทั้งสอนวิธีขาย การเริ่มต้นขาย แถมได้สิทธิ์ทดลองเปิดร้านฟรี 14 วัน ผู้สนใจสมัครได้ฟรีผ่านเพจสมาร์ทโชวห่วย พลัส
         
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท ไลน์แมน (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่รู้จักกันในนาม LINE MAN Wongnai ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มออนดีมานด์อันดับต้น ๆ ของประเทศ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ลงนามบันทึกความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส” กับกรมฯ Kick Off จัดสัมมนาออนไลน์ by DBD ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 เพื่อเติมเต็มศักยภาพให้แก่ร้านค้ารายย่อยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค หรือโชห่วย ในการสร้างโอกาสเพิ่มช่องทางการขายบน LINE MAN MART ที่จะช่วยเพิ่มรายได้และสร้างการเติบโตให้กับพ่อค้า แม่ค้า ในยุคที่แพลตฟอร์มเดลิเวอรีกำลังมาแรง
         
การสัมมนาออนไลน์ by DBD ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 ภายใต้หัวข้อ “LINE MAN MART ขายได้ทุกอย่าง ช่องทางขายใหม่ บริการส่งไว ดันยอดขายโตขึ้นเฉลี่ย 3 เท่า” จะจัดขึ้นในวันที่ 26 ม.ค.2566 ระหว่างเวลา 13.30-16.30 น. ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครได้ฟรีผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ สมาร์ทโชห่วย พลัส ซึ่งท่านจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการขายสินค้าบน LINE MAN MART พร้อมมีการถ่ายทอดประสบการณ์จริงจากร้านค้ารุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จจากการขายสินค้าบน LINE MAN MART เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการโชห่วยรายอื่นๆ ในการเริ่มต้นขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และทุกท่านที่ผ่านการสัมมนาและสนใจเปิดร้านบน LINE MAN MART จะได้รับสิทธิพิเศษ เช่น ทดลองเปิดร้านบน LINE MAN MART ฟรี 14 วัน และส่วนลดค่าจัดส่งฟรี 3 กิโลเมตรแรก



“กรมฯ และ LINE MAN Wongnai จะร่วมกันส่งเสริมผู้ประกอบการกลุ่มนี้ ให้สามารถขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบัน ผู้บริโภคต่างหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ หากผู้ประกอบการโชห่วยแบบดั้งเดิม ไม่ยอมปรับตัว ก็จะสูญเสียโอกาสทางการตลาดอย่างน่าเสียดาย แต่ถ้าปรับตัวและหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ ก็จะเป็นการสร้างรายได้และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว”นายทศพลกล่าว

ก่อนหน้านี้ กรมฯ มีนโยบายที่จะเข้าไปช่วยเหลือและพัฒนาผู้ประกอบการโชห่วย เนื่องจากเป็นกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยดำเนินโครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส” ซึ่งเป็นความร่วมแรงร่วมใจของพันธมิตรทุกฝ่ายที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส” เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2565 เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เป็น “สมาร์ทโชห่วย” ที่มีภาพลักษณ์ร้านค้าที่ดีคงความเป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่น และใช้ระบบ POS ในการบริหารจัดการร้านค้า