กรมการค้าต่างประเทศจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทย ในงาน THAIFEX–ANUGA ASIA 2022 นำข้าวหอมมะลิ ข้าวคุณลักษณะพิเศษจากผู้ประกอบการ 15 ราย จาก 10 จังหวัด มาจัดโชว์ เปิดตัวสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้แนวคิด Think Rice Think Thailand พร้อมจัดสาธิตการตรวจสอบมาตรฐานข้าว สาธิตการปรุงอาหารจากข้าว แสดงตัวอย่างข้าว และจัดเวทีเจรจาธุรกิจ

นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563–2567 ด้านการตลาดต่างประเทศ ได้เดินหน้าจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้าอาหาร 2565 (THAIFEX–ANUGA ASIA 2022 “The Hybrid Edition”) ระหว่างวันที่ 24–28 พ.ค.2565 ณ บริเวณ Rice Zone อาคาร Challenger 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี เพื่อประชาสัมพันธ์และตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ดีของข้าวไทยทั้งในด้านคุณภาพ มาตรฐาน และความหลากหลาย ตลอดจนเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการค้าข้าวคุณภาพดีทั้ง 15 ราย จาก 10 จังหวัด ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิและข้าวคุณลักษณะพิเศษที่สำคัญของไทยได้มีช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น
         
โดยในปีนี้ กรมฯ ได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ภายในคูหาประชาสัมพันธ์ภายใต้แนวคิด “Think Rice Think Thailand” ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของข้าวไทยชนิดต่าง ๆ เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวหอมมะลิไทยอินทรีย์ และข้าวคุณลักษณะพิเศษชนิดต่าง ๆ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสังข์หยด และข้าวหอมมะลิแดง เป็นต้น ตลอดจนสร้างการรับรู้เกี่ยวกับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยที่แสดงถึงคุณภาพและมาตรฐานของข้าวไทย ความรู้เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ข้าวไทยปี 2563–2567 ภายใต้หลักการ “ตลาดนำการผลิต” และการประชาสัมพันธ์ข้าวพันธุ์ใหม่ของไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น





นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตการตรวจสอบมาตรฐานข้าว โดยผู้ตรวจสอบมาตรฐานข้าว (Surveyor) จากสำนักงานคณะกรรมการตรวจข้าว สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย การสาธิตการปรุงอาหารจากข้าวไทย โดยมีเชฟระดับแถวหน้าของเมืองไทยที่มาร่วมรังสรรค์เมนูอาหารคาวหวานให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสกับรสชาติข้าวไทยที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ การจัดแสดงตัวอย่างข้าวและจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการค้าข้าวคุณภาพดีจากแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิไทยและข้าวคุณลักษณะพิเศษของไทย รวมทั้งการจัดให้มีการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมงาน และผู้นำเข้าข้าวจากต่างประเทศภายในงานด้วย

สำหรับสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยในปีนี้ คาดว่ายอดจำหน่ายสินค้าข้าวไทยจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยบวกต่าง ๆ ทั้งสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อในคุณภาพและมาตรฐานของข้าวไทย ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาข้าวไทยสามารถแข่งขันได้มากขึ้นและทำให้ข้าวไทยเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563–2567 ภายใต้หลักการ “ตลาดนำการผลิต” ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมตลาดและขยายโอกาสในการส่งออกข้าวไทยไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น อันจะเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ ตลอดจนเพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่เกษตรกรชาวนาไทย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ไทยเป็นผู้นำการผลิต การตลาดข้าว และผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพของโลกต่อไป