​“พาณิชย์”เคาะส่วนต่างข้าวงวดแรก ปีการผลิต 2564/65 จ่ายชดเชยทั้ง 5 ชนิด

img

“พาณิชย์”เคาะจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดแรก ปีการผลิต 2564/65 ชดเชยทั้ง 5 ชนิด เผย “ข้าวเปลือกเหนียว” รับเงินสูงสุด ตามด้วย “ข้าวเปลือกเจ้า” ระบุเกษตรกรจะได้รับเงินภายใน 3 วัน หลังประกาศราคาเกณฑ์กลาง แต่สำหรับงวดที่ 1 ต้องรอเสนอ ครม. รับทราบก่อน

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และรายละเอียดการจ่ายชดเชยตามโครงการประกันรายได้ข้าว ปีการผลิต 2564/65 โดยมีมติให้ชดเชยส่วนต่างงวดที่ 1 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 15 ต.ค.2564 จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว

สำหรับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง ได้ใช้ราคาเฉลี่ยย้อนหลังระหว่างวันที่ 5-14 ต.ค.2564 และต้องจ่ายส่วนต่าง ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 10,864.23 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 4,135.77 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 10,407.75 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,595.25 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคา 9,947.87 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,052.13 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 8,065.38 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,934.62 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ราคา 7,662.53 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 4,337.47 บาท
         
โดยเกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 1 สูงสุด ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 57,900.78 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 57,524 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 26,303.25 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 58,038.6 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 69,399.52 บาท



ส่วนการโอนเงินส่วนต่างงวดที่ 1 ตามโครงการประกันรายได้ปี 2564/65 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะดำเนินการได้ภายหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบผลการหารือเกี่ยวกับอัตราต้นทุนเงินของ ธ.ก.ส. ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และ ธ.ก.ส. ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2564 ซึ่งกรมฯ ได้จัดให้มีการหารือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2564 และจะได้นำเสนอในการประชุม ครม. เพื่อรับทราบในสัปดาห์หน้า โดยการจ่ายเงินชดเชยประกันรายได้ในปีที่ 3 ก็คงหลักการเช่นเดิม ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของเกษตรกรภายใน 3 วันทำการหลังจากที่ได้มีการประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงเช่นเดียวกับปี 1 และปี 2

ทั้งนี้ โครงการประกันรายได้ กำหนดราคาประกันที่ความชื้นที่ 15% เรียกข้าวแห้ง แต่ปัจจุบันเกษตรกรจะเกี่ยวสดและนำไปจำหน่าย ซึ่งจะมีความชื้นสูง ประมาณ 28-30% เรียกข้าวเปียก เมื่อหักความชื้นตามน้ำหนักไปแล้ว ก็จะได้ราคาที่ใกล้เคียงกัน เช่น ข้าวเปลือกเจ้า เกษตรกรจำหน่ายได้ 6,200-6,400 บาทต่อตัน เมื่อหักความชื้นแล้วก็จะเป็นข้าวแห้งที่ประมาณ 8,000-8,100 บาทต่อตัน

สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้ประกันราคาข้าวเปลือก 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน

ด้านการกำหนดหลักเกณฑ์ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ แหล่งที่มาของราคา และการคำนวณราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงได้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับโครงการประกันรายได้ ปีที่ 1 และปีที่ 2 โดยการคิดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงจะเฉลี่ยมาจาก 3 แหล่ง ได้แก่ ราคาข้าวเปลือกที่กรมการค้าภายใน สืบราคาข้าวเปลือกจากสมาคมโรงสี และราคาข้าวเปลือกที่คำนวณจากราคาข้าวสาร ซึ่งการคำนวณราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงจะใช้ราคารายวันย้อนหลัง 7 วัน จากทั้ง 3 แหล่งมาเฉลี่ย เพื่อให้ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงที่ได้เป็นปัจจุบัน

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง