​“พาณิชย์”ถกห้าง ร้านสะดวกซื้อ ผู้ผลิต ติดตามสถานการณ์สินค้า ยันสต๊อกมีพอ ไม่ขาดแคลน

img

กรมการค้าภายในหารือผู้ประกอบการห้างค้าปลีกค้าส่ง ร้านสะดวกซื้อ และผู้ผลิต ติดตามสถานการณ์การผลิต การจำหน่าย ยันสต๊อกสินค้ามีเพียงพอ ไม่มีปัญหาขาดแคลน แม้ประชาชนจะซื้อเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 ยังระบาดหนัก ส่วนหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ ก็ไม่มีปัญหา สินค้ายังมีจำหน่ายปกติ
         
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้หารือกับผู้ประกอบการห้างค้าปลีกค้าส่ง ร้านสะดวกซื้อ และผู้ผลิต เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตและการจำหน่ายสินค้า โดยผู้ประกอบการยืนยันว่ามีการเตรียมสต๊อกสินค้าไว้อย่างเพียงพอ และได้มีการจัดเจ้าหน้าที่เติมสินค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาการขาดแคลน หรือสินค้าขาดช่วง แม้ว่าประชาชนจะเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ในช่วงโควิด-19 ที่ยังมีความรุนแรง จึงขอให้ประชาชนมั่นใจและไม่จำเป็นต้องซื้อกักตุน ให้ซื้อตามความจำเป็น
         
“การซื้อสินค้าของประชาชนในช่วงนี้ ส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าในร้านโชวห่วย หรือร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ส่วนห้างค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ จะซื้อสินค้าในกลุ่มอาหาร ซอสปรุงรส อุปกรณ์ประกอบอาหาร และของใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30% เนื่องจากลดจำนวนครั้งในการซื้อลง แต่เพิ่มปริมาณในการซื้อแต่ละครั้ง และส่วนหนึ่งได้หันไปสั่งซื้อช่องทางออนไลน์ของห้างและแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย”
         


ส่วนสินค้าหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า หน้ากากทางเลือก และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ยังคงมีปริมาณมากและเพียงพอ ซึ่งในส่วนของผู้ผลิต ต่างยืนยันว่ายังสามารถผลิต และจัดส่งสินค้าได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาการขาดแคลนเช่นเดียวกัน และได้ขอความร่วมมือให้ผู้ขายตรึงราคา และจำหน่ายไม่เกินราคาที่กำหนด โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย

นอกจากนี้ ยังพบว่า ปริมาณการซื้อสินค้าของประชาชน ยังมีการซื้อผ่านร้านท้องถิ่นและร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากโครงการของรัฐบาล ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยและร้านค้าท้องถิ่นสามารถยังคงอยู่ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ และทางผู้ผลิตได้ยืนยันว่าหากความต้องการเพิ่มขึ้น ยังคงมีสต็อกที่สามารถจัดส่งและเพิ่มกำลังผลิตได้อีก จึงมั่นใจว่าสินค้ามีเพียงพออย่างแน่นอน
         
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะได้ติดตามตรวจสอบสถานการณ์การผลิตและจำหน่ายสินค้าอย่างใกล้ชิด หากตรวจพบว่ามีการจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควรหรือมีการกักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย จะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ ประชาชนพบเห็นการกักตุนสินค้าหรือขายสินค้าโดยไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง