​“จุรินทร์”สั่งหน่วยงานพาณิชย์เจรจาด่วน หาทางเบรกเมียนมาห้ามนำเข้าเครื่องดื่มด่านทางบก

img

“จุรินทร์”สั่งหน่วยงานพาณิชย์เจรจาด่วน หลังเมียนมาเตรียมออกประกาศห้ามนำเข้าสินค้าเครื่องดื่มผ่านด่านทางบก และให้นำเข้าผ่านด่านทางเรือแทน มีผล 1 พ.ค.นี้ ป้องกันต้นทุนผู้ส่งออกสูงขึ้น เหตุไทยสินค้ากลุ่มดังกล่าวไปเมียนมาปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท  
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแผนรับมือเมียนมางดการนำเข้าสินค้าเครื่องดื่มชั่วคราว ว่า ได้รับรายงานจากทูตพาณิชย์ประจำเมียนมาว่าในวันที่ 1 พ.ค.2564 อาจจะมีคำสั่งเรื่องสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่ม ที่เมียนมาอาจระงับไม่ให้นำเข้าผ่านด่านทางบก แต่ให้ส่งออกผ่านด่านทางเรือ ซึ่งตนได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และกรมการค้าต่างประเทศ เร่งดำเนินการเจรจา โดยจะมีการนัดหารือกับอธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศของเมียนมา เพื่อถามถึงสาเหตุและหนทางในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหา และเมื่อได้หารือกันแล้วจะแจ้งข้อเท็จจริง รวมทั้งความคืบหน้าในการหาทางออกร่วมกันต่อไป
         
ทั้งนี้ การค้าชายแดนไทย-เมียนมา ยังเดินหน้าต่อไปได้ แต่เรื่องนี้ เป็นกรณีเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่ม เช่น เครื่องดื่มบำรุงกำลัง น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และนมเปรี้ยว เป็นต้น โดยไทยส่งออกไปยังเมียนมาปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยหากเป็นไปตามที่เมียนมาจะดำเนินการ จะกระทบทำให้ไทยต้องไปส่งทางเรือ มีต้นทุนการขนส่งมากขึ้นแทนที่ไปส่งทางบก ซึ่งที่ผ่านมา ไทยส่งผ่านด่านใหญ่ 3 ด่าน คือ 1.แม่สอด 2.แม่สาย 3.ระนอง
         


ก่อนหน้านี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง เมียนมา แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2564 เป็นต้นไป รัฐบาลเมียนมาประกาศห้ามนำเข้าสินค้า 5 รายการ ผ่านด่านการค้าชายแดนระหว่างประเทศทางบก โดยให้นำเข้าทางเรือแทน ได้แก่ เครื่องดื่มทุกประเภท เช่น น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง , เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟ และชา , กาแฟสำเร็จรูป , นมข้นหวาน และนมข้นจืด จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

โดยในช่วง 2 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.พ.) เมียนมานำเข้าสินค้าดังกล่าวจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก อีกทั้งยังขาดดุลการค้ากับไทยจำนวนมาก นำเข้าเครื่องดื่มจากไทยมากถึง 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการที่ชาวเมียนมาต่อต้านสินค้าของบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพ จึงหันมานำเข้าจากไทยแทน และปัจจุบัน เมียนมายังมีปัญหาขาดดุลการค้ากับไทย รัฐบาลต้องการแก้ปัญหานี้ จึงได้ออกประกาศห้ามนำเข้าทางบก และให้นำเข้าทางเรือแทน

สำหรับการหารือกับเมียนมา ไทยจะขอให้เมียนมาทบทวนการออกประกาศดังกล่าว และย้ำให้เห็นว่า การขาดดุลการค้า ไม่ได้มาจากเมียนมานำเข้าสินค้าจากไทยเพียงฝ่ายเดียว แต่ไทยก็นำเข้าสินค้าจากเมียนมาเป็นจำนวนมาก แต่ที่ผ่านมา ตัวเลขนำเข้าน้อย เพราะการขนส่งในเมียนมาไม่คล่องตัว จากเหตุการณ์ความไม่สงบ จึงส่งออกมาไทยได้น้อย โดยหวังว่าเมียนมาจะเข้าใจเหตุผลของไทย และยอมทบทวนการออกประกาศดังกล่าว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง