​“พาณิชย์”จับมือสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยถก BERNAS ดันข้าวพื้นนุ่มเจาะตลาดมาเลย์

img

กรมการค้าต่างประเทศร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย หารือ BERNAS หน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าข้าวของมาเลเซีย ได้รับข่าวดี ปีนี้ต้องการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านตัน ชี้เป็นโอกาสผลักดันข้าวไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้น เผยได้นำเสนอข้าว กข79 ที่เป็นข้าวพื้นนุ่ม คล้ายข้าวเวียดนาม เพื่อเป็นทางเลือก พร้อมส่งตัวอย่างให้ดู มั่นใจขายได้แน่ ระบุจะเดินหน้าหารือผู้ซื้อ ผู้นำเข้าผ่านทางออนไลน์ต่อ หลังทำกับฮ่องกง มาเลเซียไปแล้ว
         
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2563 กรมฯ ได้ประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และหน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าข้าวของมาเลเซีย (Padiberas Nasional Berhad : BERNAS) เพื่อกระชับความสัมพันธ์และหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การผลิตและการค้าข้าวในปี 2563 โดย BERNAS ได้แจ้งว่าภายในปี 2563 คาดการณ์ว่าอาจนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านตัน จากปกตินำเข้าประมาณ 8 แสนตัน จึงเป็นโอกาสดีของผู้ส่งออกไทยที่จะผลักดันส่งออกข้าวไปยังมาเลเซียได้เพิ่มขึ้น
         
ทั้งนี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้นำเสนอข้าว กข79 ซึ่งเป็นข้าวขาวสายพันธุ์ใหม่ของไทย ที่มีคุณลักษณะเด่นคือ เป็นข้าวขาวพื้นนุ่ม มีอมิโลสต่ำที่ประมาณร้อยละ 16.82 แตกต่างจากข้าวขาวทั่วไปที่มีอมิโลสที่ร้อยละ 25–27 จึงทำให้ข้าว กข79 มีความนุ่มคล้ายข้าวขาวพันธุ์ 5451 ของเวียดนาม โดยสมาคมฯ จะจัดส่งตัวอย่างข้าว กข79 ให้แก่ BERNAS ภายในเดือนก.ย.2563 ซึ่ง BERNAS ได้ให้ความสนใจข้าว กข79 อย่างมาก และวางแผนจะกระจายสินค้าข้าวดังกล่าวไปยังผู้แทนจำหน่ายทั่วมาเลเซียเพื่อทดลองตลาดต่อไป
         


“ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การค้าข้าวในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมาเลเซียแจ้งว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของโรค ผู้บริโภคในมาเลเซียมีการซื้อข้าวเพิ่มขึ้น แต่เป็นข้าวที่มีราคาต่ำ สะท้อนให้เห็นถึงภาวะ Panic Buying ของผู้บริโภคภายในประเทศ แต่สถานการณ์ได้กลับเป็นปกติแล้ว ตั้งแต่ช่วงมิ.ย.2563 ที่ผ่านมา โดย BERNAS ยังได้ขอบคุณไทยสำหรับมิตรไมตรีที่มีต่อกันเสมอมาในการสนับสนุนความต้องการสินค้าข้าว และยินดีที่จะร่วมสนับสนุนข้าวขาวพื้นนุ่มของไทยในตลาดมาเลเซีย ซึ่งไทยได้ให้คำมั่น BERNAS ขอให้มั่นใจในศักยภาพของไทยในการส่งออกข้าวคุณภาพดีให้ลูกค้าท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน”นายกีรติกล่าว
         
ก่อนหน้านี้ ในช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา มาเลเซียได้หันไปนำเข้าข้าวจากประเทศคู่แข่งของไทยมากขึ้น แม้ว่าคุณภาพจะด้อยกว่าข้าวไทย แต่ด้วยราคาข้าวไทยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง โดยปัจจุบันมาเลเซียนำเข้าข้าวจากจากเวียดนาม ปากีสถาน เมียนมา ไทย และอินเดีย ตามลำดับ แต่ไทยได้แจ้งไปยังมาเลเซียว่าไทยอยู่ระหว่างการจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563–2567 โดยจะเน้นหลักการ “การตลาดนำการผลิต” เพื่อให้ไทยมีสินค้าข้าวที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดต่างประเทศได้มากขึ้นแล้ว
         
นายกีรติกล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลให้กรมฯ ไม่สามารถเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าข้าวหลักในประเทศต่างๆ ได้ แต่กรมฯ ยังคงมีแผนจัดการประชุมหารือและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของไทย ผ่านระบบ Video Conference อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้ข้าวไทยมีส่วนแบ่งในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น โดยในเดือนพ.ค.2563 ได้มีการหารือกับสมาคมผู้นำเข้าข้าวของฮ่องกง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

สำหรับการส่งออกข้าวไทยตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ค.2563 ส่งออกข้าวไปแล้ว ปริมาณ 3.30 ล้านตัน มูลค่า 69,469 ล้านบาท และเป็นการส่งออกไปมาเลเซีย ปริมาณ 66,007 ตัน มูลค่า 990 ล้านบาท

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง