​“จุรินทร์”ตรวจสอบการระบายผลไม้ผ่านห้าง พร้อมสั่งพาณิชย์จังหวัดทำหน้าที่เซลล์แมนช่วยขาย

img

“จุรินทร์”ตรวจห้าง ติดตามผลการช่วยเกษตรกรระบายผลไม้ หลังลงนาม MOU ซื้อผลไม้ 1.67 หมื่นตัน มูลค่า 762 ล้านบาท เผยปีนี้ ต้องปรับระบบบริหารจัดการใหม่ เหตุเจอสถานการณ์โควิด-19 เล็งเพิ่มการจำหน่ายในประเทศทุกช่องทาง สั่งพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศทำหน้าที่เซลล์แมนขายผลไม้ พร้อมเร่งดันขายผ่านช่องทางออนไลน์
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม Tops market ในห้างเซ็นทรัล สาขาแจ้งวัฒนะ ตามโครงการความร่วมมือระบายสินค้าเกษตร-ผลไม้ กับห้างสรรพสินค้า ว่า เป็นการมาติดตามความร่วมมือที่เกิดขึ้นจากการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2563 ที่ผ่านมา ที่ห้างโมเดิร์นเทรด ทั้งบิ๊กซี เทสโก้ โลตัส เดอมอลล์ แมคโคร และท็อปส์ มาร์เก็ต ได้ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการเป็นแหล่งระบายผลไม้ให้กับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ซึ่งได้ทำสัญญากว่า 40 สัญญา เพื่อระบายผลไม้จากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งช่วยให้สามารถขายผลไม้จากเกษตรทั่วประเทศได้ถึง 16,700 ตัน และมีมูลราคา 762 ล้านบาท
         
สำหรับผลไม้ที่ได้มีการลงนามซื้อขายผ่านตลาดข้อตกลงนั้น ทางโมเดิร์นเทรดได้ทำสัญญากับสถาบันเกษตรกรจากจังหวัดเชียงใหม่ ลําพูน น่าน สุโขทัย ตราด จันทบุรี กว่า 40 สัญญา มีผลไม้ 9 ชนิด ได้แก่ ส้มเขียวหวาน ลําไย ลิ้นจี่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง สละ และสับปะรด
         
“เวลานี้จำเป็นต้องเร่งทำเป็นกรณีพิเศษ คือ เรื่องผลไม้ ซึ่งผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว และจะออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วง 3-4 เดือนถัดจากนี้ไป แต่ในช่วงที่ผ่านมา เราต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 จึงต้องปรับแผนงานทั้งหมด ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยขณะนี้เราประสบปัญหาผลไม้ในภาพรวมที่จะต้องส่งออก 60% ต้องปรับมาเป็นตลาดในประเทศบางส่วน เพื่อช่วยชาวสวน ซึ่งจากนี้จะเน้นทั้งการขายออฟไลน์ และออนไลน์”
         
ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดออฟไลน์ ที่ผ่านมาได้ร่วมกับสมาคมค้าส่งค้าปลีกสินค้าเกษตรไทยและสมาคมตลาดสดในการช่วยระบายผลไม้ไปยังตลาดในประเทศ เช่น ตลาดไท และยังเร่งระบายผ่านห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด รวมทั้งกำลังเร่งใช้ตลาดในท้องถิ่นช่วยกระจาย โดยจะให้พาณิชย์จังหวัดประสานงานกับสหกรณ์การเกษตรที่ผลิตผลไม้ทั่วประเทศที่มี 114 สหกรณ์ เพื่อร่วมมือนำผลไม้ไปขาย ต้องทำหน้าที่เป็นเซลล์แมนจังหวัดขายผลไม้ เช่น ลองกองจากนราธิวาส เอาไปขายที่อุบลราชธานี ที่กรุงเทพฯ และที่ภาคเหนือ หรือมะม่วงจากอีสาน จากภาคเหนือ เอาไปขายที่กรุงเทพฯ และภาคอื่นๆ เป็นต้น
         
ส่วนช่องทางออนไลน์ จะร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ไปรษณีย์ไทยและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น ลาซาด้า ช้อปปี้ จตุจักรมอลล์ ช่วยทำแคมเปญสนับสนุนการบริโภคผลไม้ไทยเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งปกติจะส่งออก แต่ปีนี้จะได้กินของดีในราคาประหยัด รวมทั้งรวมมือกับห้างที่มีช่องทางออนไลน์ เปิดให้สั่งซื้อผลไม้ทางออนไลน์ และร่วมมือกับแอปพลิเคชัน เช่น แกร็บ จำหน่ายผลไม้ทางออนไลน์ด้วย

>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit  
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง