
“พาณิชย์”เดินหน้าจับผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุมและขายแพงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดผลจับกุมวันที่ 18 มี.ค.63 จับได้อีก 7 ราย ส่วนใหญ่ขายเกินราคาควบคุมและขายแพง มีไม่ปิดป้ายขายเจลล้างมือ และไม่แจ้งสต๊อกอย่างละราย รวมยอดทั้งหมด จับได้แล้ว 176 ราย
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจับกุมดำเนินคดีผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ของวันที่ 18 มี.ค.2563 ว่า สามารถจับกุมได้รวม 7 ราย แยกเป็น กรุงเทพฯ 2 ราย เป็นประเภทร้านค้าทั่วไป พบขายหน้ากากอนามัยแพ็ก 10 ชิ้น ในราคาแพ็กละ 160 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 16 บาท 1 ราย ได้แจ้งข้อหากระทำความผิดขายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุม และขายราคาเกินสมควร และอีก 1 ราย กระทำความผิดขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ โดยไม่ปิดป้ายแสดงราคา
ส่วนในต่างจังหวัด จำนวน 5 ราย ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี 1 ราย เป็นประเภทร้านค้าทั่วไป กระทำความผิดข้อหาขายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุม ในราคาชิ้นละ 18 บาท จังหวัดเชียงใหม่ 1 ราย เป็นโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย พบความผิดไม่แจ้งข้อมูลปริมาณ สถานที่เก็บ ตามประกาศ กกร. จึงแจ้งข้อหา มาตรา 25 (5) เป็นผู้ผลิตไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิตปริมาณคงเหลือรายวัน จังหวัดปทุมธานี 2 ราย เป็นการล่อซื้อหน้ากากอนามัย ในราคาชิ้นละ 20 บาท โดยทั้งสองรายพบการกระทำความผิดข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคา ขายเกินราคาควบคุม และขายแพงเกินสมควร จังหวัดศรีสะเกษ 1 ราย พบขายหน้ากากอนามัยกล่องละ 50 ชิ้น ในราคา 1,000 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 20 บาท แจ้งข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคา และขายราคาเกินสมควร
สำหรับสถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดรวมจนถึงวันที่ 18 มี.ค.2563 มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 176 ราย แบ่งเป็นการจับกุมในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 99 ราย และในต่างจังหวัด 77 ราย
ทั้งนี้ นอกจากการจับกุมผู้ขายหน้ากากอนามัยแพงอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศแล้ว ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ยังได้ตรวจสอบจับกุมผู้กระทำความผิดขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ในข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาและข้อหาขายแพงเกินสมควร อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับสินค้าที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุม หากพบขายแพงเกินสมควร ก็จะมีความผิดในข้อหาขายสินค้าแพงเกินสมควรตามมาตรา 29 จึงขอให้ผู้ค้าสินค้าทั้งหลาย ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยเด็ดขาด
โดยโทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ในข้อหาขายเกินราคาควบคุม จะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท และหากเป็นผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายก็ต้องแจ้งปริมาณการถือครองสินค้าต่อกรมการค้าภายใน หากฝ่าฝืนจะมีความผิดซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง