“พาณิชย์”นำคณะตรวจสอบการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านที่ด่านช่องเม็ก ขอความร่วมมือตรวจสอบการนำเข้าอย่างเข้มงวด ป้องกันการลักลอบนำเข้าจนกระทบต่อราคาหัวมันสดในประเทศ เล็งผลักดันมันสำปะหลังเข้าสู่อุตสาหกรรมเอทานอลและนำไปใส่นวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมขอเกษตรกรหันใช้วิถีอินทรีย์ปลูกมัน หลังตลาดต้องการสูง  

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ.2560 ที่ผ่านมา ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์มันสำปะหลัง ปี 2559/60 ที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้หารือร่วมกับด่านศุลกากรช่องเม็ก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ตามแนวชายแดนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา เพราะจะส่งผลกระทบต่อราคามันสำปะหลังในประเทศ ที่ในขณะนี้ เป็นช่วงที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด

“กรมศุลกากรได้ให้ความร่วมมือในการสอดส่องดูแลการนำเข้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์จากประเทศเพื่อนบ้านตามที่กระทรวงฯ ได้ขอความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยจะมีการตรวจสอบการนำเข้า น้ำหนักบรรทุก และใบอนุญาตต่างๆ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และกระทรวงฯ จะมีการขอความร่วมมือไปยังด่านชายแดนอื่นๆ ให้ตรวจตราอย่างเข้มงวดต่อไปด้วย”นางอภิรดีกล่าว

นางอภิรดีกล่าวว่า ในการเดินทางครั้งนี้ กระทรวงฯ ได้เยี่ยมชมโรงงานผลิตเอทานอลของบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจใน 3 รูปแบบ คือ การผลิตผลิตเอทานอล ผลิตแป้งมันสำปะหลัง ผลิตก๊าซชีวภาพและผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งทางผู้ประกอบการได้รับที่จะรับซื้อมันสำปะหลังจากเกษตรกร เพื่อนำไปใช้ในการผลิตเอทานอลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยดูดซับมันสำปะหลังและช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือในการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ เพื่อลดข้อจำกัดและสร้างโอกาสในการผลักดันมันสำปะหลังเข้าสู่อุตสาหกรรมเอทานอลได้อย่างยั่งยืน รวมจะหาทางส่งเสริมให้มีการสร้างนวัตกรรมให้กับสินค้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายและสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เช่น ไบโอพลาสติก ผลิตภัณฑ์อาหาร เป็นต้น เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกร

สำหรับตัวเกษตรกร กระทรวงฯ จะหาทางส่งเสริมและรณรงค์ให้เกษตรกรปลูกมันสำปะหลังในวิถีอินทรีย์ที่สามารถตอบโจทย์ด้านต้นทุนการผลิตได้อย่างยั่งยืน เพราะปัจจุบันนี้ กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งผลักดันให้มีการผลิตมันเส้นสะอาดให้เพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับมันสำปะหลังได้และยังเป็นที่ต้องการของตลาด และขายได้ราคาดีขึ้นกว่าการขายเป็นหัวมันสด