“พาณิชย์”เปิดโพย 573 สินค้าถูกตัดจีเอสพี ยันส่งออกกระทบน้อย เว้นรายการที่ใช้สิทธิมากส่อหนัก

img

“พาณิชย์”สรุปสหรัฐฯ ตัดจีเอสพีไทยรวม 573 รายการ คิดเป็น 40% ของสินค้าที่ไทยใช้สิทธิในปี 61 เผยการถูกตัดสิทธิ มีผลต่อการส่งออกไม่มากนัก แต่บางรายการที่ใช้สิทธิมากอาจมีผลแรงกว่าสินค้าอื่น แนะเร่งกระจายความเสี่ยงส่งออกไปยังตลาดอื่นเพิ่มเติม เพื่อชดเชยตลาดสหรัฐฯ

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯ มีประกาศจะตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ที่เคยให้ไทยบางรายการ ว่า จากการตรวจสอบ พบว่า สหรัฐฯ จะตัดสิทธิจีเอสพพไทย 573 รายการ คิดเป็น 40% จากจำนวนสินค้าที่ไทยใช้สิทธิในปี 2561 รวม 1,485 รายการ โดยจะมีผลบังคับใช้ 25 เม.ย.2463 และมีการคืนสิทธิให้ไทย 7 รายการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกคิดเป็นประมาณ 0.01% ของการส่งออกรวมของไทยเฉลี่ยรายปี แต่มีสินค้าบางรายการที่ใช้สิทธิมากที่อาจได้รับผลกระทบมากกว่ารายการอื่น

ทั้งนี้ ในปี 2561 ไทยมีการใช้สิทธิจีเอสพี เพียง 355 รายการ (จาก 573 รายการ) มูลค่า 1,279.8 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการใช้สิทธิเฉลี่ย 66.7% เช่น อาหารทะเลแปรรูป พาสต้า ถั่วชนิดต่างๆ แยมผลไม้ น้ำผลไม้ ซอสถั่วเหลือง เคมีภัณฑ์ อุปกรณ์เครื่องครัวและของใช้ในบ้าน มอเตอร์ไฟฟ้า เหล็กแผ่นและสเตนเลส เครื่องดนตรี และอุปกรณ์ตกปลา โดยการถูกตัดสิทธิจีเอสพี ทำให้ต้นทุนส่งออกไทยจะเพิ่มขึ้นประมาณ 50.33 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากสินค้าไทยกลุ่มนี้จะถูกเก็บภาษีนำเข้าสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 4.5% (อ้างอิงจากอัตรา MFN rate ของสหรัฐฯ ปี 2561)

“ประเมินว่า การถูกตัดสิทธิจีเอสพี ส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยอย่างจำกัด อัตราภาษีที่สูงขึ้นอาจทำให้มูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ สำหรับสินค้ากลุ่มที่โดนตัดสิทธิในปี 2563 (เมื่อมาตรการมีผลบังคับใช้) ลดลงมูลค่า 28.8 – 32.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.01% ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย”

สำหรับกลุ่มสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด (มีการพึ่งพาสิทธิจีเอสพีมากกว่า 50% และส่วนแบ่งตลาดต่ำกว่า 10%) ได้แก่ คอนโซล โต๊ะและฐานรองอื่น ๆ ที่ติดตั้งด้วยเครื่องอุปกรณ์ (HS8537) รถจักรยานยนต์ (HS8711) แว่นสายตาหรือแว่นกันลม/กันฝุ่น (HS9004) หลอดหรือท่ออ่อนทำจากยางวัลแคไนซ์ (HS4009) อ่างล้างหน้า (HS6910) เครื่องสูบของเหลว (HS8413) สารเคลือบผิว Epoxy Resin (HS3907) เครื่องสูบลมหรือสูบสูญญากาศ (HS8414) อาหารปรุงแต่งที่ทำจากธัญพืช (HS1904) ยางนอกชนิดอัดลม (HS4011) หากไทยสามารถกระจายความเสี่ยงส่งออกสินค้าที่ถูกตัดสิทธิไปยังตลาดอื่นๆ ได้ จะช่วยลดกระทบต่อการส่งออกไทยได้

อย่างไรก็ตาม การส่งออกไทยที่มีจุดเด่นในการกระจายตัวของสินค้ากลุ่มใหม่ที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่องในอนาคต เช่น เครื่องนุ่งห่มรถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องครัว และของใช้ในบ้าน ซึ่งจะช่วยยังสนับสนุนการส่งออกของไทยในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นต่อไปได้ แต่การถูกตัดจีเอสพี ทำให้ความได้เปรียบด้านต้นทุนภาษีหมดไป และไทยจะเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้น ดังนั้น การรักษาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ส่งออกควรกระชับสัมพันธ์กับผู้นำเข้าพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการส่งเสริมการส่งออกและการตลาดเชิงรุก เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด

>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง