​“จุรินทร์”ประชุมผู้บริหาร เตรียมพร้อมรับมืออภิปรายงบประมาณปี 63 ในส่วนของพาณิชย์

img

“จุรินทร์”ประชุมผู้บริหารพาณิชย์ เตรียมความพร้อมรับมือการอภิปรายงบประมาณปี 2563 ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ เผยปี 63 ได้งบ 9,812 ล้านบาท ลด 7.73% เหตุไม่ต้องตั้งงบดูแลข้าวในสต๊อกที่ค้างมาจากโครงการรับจำนำ หลังขายหมดเกลี้ยงไปแล้ว ย้ำงบประมาณส่วนใหญ่ จะใช้ขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อ ที่ได้มอบไว้ตั้งแต่เข้ามาทำงาน
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ว่า ที่ประชุมได้เตรียมความพร้อมสำหรับการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2563 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 17-18 ต.ค.2562 โดยเฉพาะงบประมาณในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ที่ได้รับการจัดสรร 9,812 ล้านบาท ลดลง 599 ล้านบาท หรือลดลง 7.73% ซึ่งจะต้องมีการเตรียมการในด้านข้อมูลเพื่อชี้แจง หากมีการสอบถามมา
         
ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณปี 2563 ที่ได้รับลดลงนั้น เนื่องจากในปี 2563 ไม่มีการตั้งงบประมาณรายจ่ายสำหรับใช้ในการรักษาข้าวในสต๊อกที่ค้างมาจากโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมา ซึ่งปกติจะใช้งบประมาณปีละประมาณ 1,500 ล้านบาท พอขายข้าวในสต๊อกได้หมด ก็ไม่มีภาระตรงนี้อีกต่อไป
         
สำหรับรายละเอียดการจัดงบประมาณของกระทรวงพาณิชย์ปี 2563 ส่วนใหญ่มุ่งเน้นการทำงานตามนโยบาย 10 ข้อที่ได้มอบไว้ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2562 คือ การประกันรายได้ , การยกระดับร้านค้าปลีกรายย่อยเป็นสมาร์ท โชวห่วย , การเร่งรัดการส่งออกและการค้าชายแดน , การเจรจาการค้าเสรี , การเร่งรัดการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) , การขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ , การยกระดับการอำนวยความสะดวกทางการค้า , การดูแลราคาสินค้าและลริการ และค่าครองชีพ , การส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจบริการ และการขับเคลื่อนนโยบายผ่านกลไก 3 ฝ่าย
         
นายจุรินทร์ยกตัวอย่างว่า ในด้านการประกันรายได้ ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยปาล์มน้ำมัน ได้จ่ายเงินงวดแรกไปแล้ววันที่ 1 ต.ค.2562 ข้าว วันที่ 15 ต.ค.2562 และยางพารา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการแล้ว จะจ่ายเงินงวดแรก 1-15 พ.ย.2562 ส่วนสินค้าอีก 2 ชนิด กำลังจะนัดประชุม 3 ฝ่าย โดยมันสำปะหลังนัดไว้ที่จ.อุดรธานี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่จ.เพชรบูรณ์ ขณะที่สินค้าเกษตรอื่นๆ มีมาตรการดูแลอย่างต่อเนื่อง ทั้งการดูแลราคาและเร่งหาตลาดส่งออก โดยเฉพาะผลไม้ จะเดินหน้าเปิดตลาดอินเดียและจีนให้ได้เพิ่มขึ้น
         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้านโยบายเรื่องอื่นๆ ที่จะมีการดำเนินการต่อในปี 2563 เช่น การยกระดับร้านค้าปลีกรายย่อยเป็นสมาร์ท โชวห่วย จะมีการผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้และใช้ช่องทางออนไลน์ในการค้าขาย , การผลักดันการส่งออก จะเร่งรัดผลักดันการส่งออกไปยังประเทศเป้าหมาย และสินค้าเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการขับเคลื่อนการค้าชายแดน และยังได้เตรียมแผนรับมือสงครามการค้า และการออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษ (Brexit)
         
นอกจากนี้ จะเดินหน้าผลักดันการขึ้นทะเบียนสินค้า GI รายการใหม่ๆ , การขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ เช่น ไบโออีโคโนมี่ เศรษฐกิจสีเขียว และเศรษฐกิจแบ่งปัน รวมไปถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยบิ๊กดาต้า , การอำนวยความสะดวกทางการค้า จะมีการพัฒนานำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการงานต่างๆ เพิ่มมากขึ้น , การดูแลราคาสินค้าและบริการ จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลค่าครองชีพ รวมถึงการสร้างความเป็นธรรมในการซื้อขายสินค้า เช่น โครการซื้อด้วยความมั่นใจ (BWC) , การส่งเสริมธุรกิจบริการ จะเน้นการพัฒนาธุรกิจบริการโลจิสติกส์ การขยายตลาดบริการ เช่น สุขภาพและความงาม ดิจิทัลคอนเทนต์ โลจิสติกส์การค้า และบริการสนับสนุน

>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง