​“จุรินทร์”ถกวอร์รูม ทำแผนผลักดันส่งออก รุกทวงคืนตลาดข้าวอิรัก ขายมันจีนตอนใต้

img

“จุรินทร์”นัดถกวอร์รูมทำแผนผลักดันการส่งออกเป็นรายสินค้า เริ่มจาก “ข้าว-มันสำปะหลัง” เตรียมจัดทำแผนเร่งด่วน ลุยทวงคืนตลาดข้าวในอิรักผ่านการขายจีทูจี หลังเสียไปก่อนหน้านี้ พร้อมขอจีนซื้อข้าวที่เหลือ 3 แสนตัน เน้นข้าวหอมมะลิเพิ่มขึ้น และรุกเพิ่มส่งออกฟิลิปปินส์และญี่ปุ่น ส่วนมันสำปะหลัง จะเจาะจีนตอนใต้ อินเดีย และตลาดใหม่อย่างตุรกี นิวซีแลนด์  

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์ส่งออก (วอร์รูม) ร่วมกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์ส่งออกเป็นรายสินค้า โดยได้เริ่มที่สินค้าข้าว และมันสำปะหลัง ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการเร่งรัดและผลักดันการส่งออกสินค้าข้าวและมันสำปะหลังให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะปัจจุบันตัวเลขการส่งออกลดลง จากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ราคาสินค้าเกษตรไทยสูงขึ้น จึงเสียตลาดบางส่วนให้กับคู่แข่ง จึงต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้การส่งออกกลับมาเพิ่มขึ้น

โดยสินค้าข้าว มีตลาดที่จะเร่งรัดเป็นพิเศษ คือ อิรัก ซึ่งเป็นตลาดเดิมที่เคยนำเข้าข้าวจากไทยปริมาณมาก แต่ไทยเสียตลาดนี้ เพราะผู้ส่งออกไทยส่งออกข้าวไม่มีคุณภาพ ทำให้อิรักเสียความมั่นใจ และเลิกนำเข้าไทยจนถึงปัจจุบัน แต่ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศไปฟื้นฟูความสัมพันธ์ และเร่งรัดการเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งในเบื้องต้น ได้รับรายงานว่าอิรักสนใจจะนำเข้าข้าวจากไทยอีกครั้ง และเมื่อมีความชัดเจน ตนจะนำคณะเดินทางไปเจรจาต่อไป

นอกจากนี้ ในส่วนของตลาดจีน ไทยจะเร่งเจรจาให้จีนซื้อข้าวในส่วนของ 3 แสนตันที่เหลือ จากสัญญาจีทูจี 1 ล้านตัน โดยจะขอให้จีนนำเข้าข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มขึ้น จากปกติที่นำเข้าข้าวขาวเป็นส่วนใหญ่ , ตลาดฟิลิปปินส์ หลังจากที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้เปลี่ยนรูปแบบการนำเข้าจากเดิมที่กำหนดโควตานำเข้า และเปิดประมูลตามโควตาที่กำหนด มาเป็นการนำเข้าโดยเอกชน กระทรวงพาณิชย์จะเป็นตัวกลางจัดให้ผู้นำเข้าฟิลิปปินส์ได้พบปะกับผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อจากไทย รวมถึงญี่ปุ่น ที่ไทยจะต้องเจรจาให้เพิ่มโควตาการนำเข้าจากไทยด้วย
         
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับสินค้ามันสำปะหลัง ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องโรคใบด่าง ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้และในอนาคต ถ้าสกัดการระบาดไม่ได้ โดยล่าสุดพบการระบาดใน 9 จังหวัด ซึ่งจะมีการหามาตรการจำกัดการระบาดของโรค ไม่ให้ออกนอก 9 จังหวัด โดยจะช่วยสนับสนุนท่อนพันธุ์มันให้กับเกษตรกร และคาดว่า สัปดาห์นี้ จะมีมาตรการที่ชัดเจนในการแก้ปัญหา

ทั้งนี้ ในด้านการขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลัง จะเร่งรัดการเจาะตลาดจีนให้มากขึ้น โดยเฉพาะจีนตอนใต้ ซึ่งภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ จะมีคำตอบว่าจะมีแผนในการทำตลาดยังไง และสำหรับอินเดีย พบว่ามีศักยภาพที่จะขยายตลาดได้อีกมาก โดยเฉพาะแป้งมันที่จะนำไปใช้ทำอาหารและซอสปรุงรส รวมถึงตลาดใหม่อย่างตุรกี และนิวซีแลน์ เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ แต่ทั้ง 2 ประเทศยังมีความไม่เข้าใจในการนำไปใช้ ซึ่งจะมีการนัดให้ผู้นำเข้าพบปะกับผู้ส่งออก เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดต่อไป

>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit  
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง