​“พาณิชย์”จับ 2 ลานปาล์มชุมพรโกงน้ำหนัก ตุกติกตันละ 200-300 กิโล ส่งตัวดำเนินคดีทันที

img

“พาณิชย์”ส่งสายตรวจจับลานรับซื้อปาล์ม 2 แห่งที่ชุมพร โกงน้ำหนักชาวสวน ฟันส่วนต่างตันละ 200-300 กิโลกรัม จับตัวส่งดำเนินคดีทันที โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 2.8 แสนบาท ส่วนความคืบหน้าซื้อน้ำมันปาล์มไปผลิตไฟฟ้า กฟผ. เริ่มซื้อสัปดาห์หน้า คาดสิ้นเดือนม.ค.นี้ ซื้อหมด 1.6 แสนตัน ฉุดสต๊อกกลับเข้าสู่ปกติราว 2 แสนตัน คาดดันราคาผลปาล์มดิบขยับ 3.20-3.50 บาทได้แน่
            
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดส่งชุดสายตรวจพิเศษลงตรวจสอบลานรับซื้อผลปาล์มน้ำมันในจังหวัดชุมพร 2 แห่ง หลังจากได้รับการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ว่ามีพฤติกรรมปรับแต่งเครื่องชั่งน้ำหนัก ทำให้น้ำหนักของผลปาล์มน้ำมันที่ได้มีน้ำหนักน้อยกว่าน้ำหนักจริง และเจ้าของลานปรับแต่งแก้ไขข้อมูลการชั่งน้ำหนักในระบบเครื่องชั่ง (ระบบมีลักษณะเป็นโปรแกรม Microsoft Excel) ซึ่งผู้ร้องเรียนได้ส่งหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอการกระทำความผิดของลานทั้ง 2 กรณีมาด้วย ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดจริง เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเจ้าของลานรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนในพื้นที่รับผิดชอบดำเนินการเอาผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และพ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด ฉบับที่ 3 พ.ศ.2557 โดยมีโทษสูงสุดคือ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 280,000 บาท
         
ทั้งนี้ ลานรับซื้อผลปาล์มที่ถูกจับกุม คือ หาดพันไกรลานปาล์มหรือพันไกรปาล์ม อ.เมืองชุมพร และโมเดิร์นลานปาล์ม อ.ท่าแซะ โดยลานรับซื้อผลปาล์มน้ำมันทั้ง 2 แห่งมีเจ้าของและผู้ดำเนินกิจการเป็นบุคคลเดียวกัน และการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันทั้ง 2 แห่ง มีการแก้ไขดัดแปลงส่วนประกอบของเครื่องชั่ง โดยติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ความเที่ยงตรงของเครื่องชั่งผิดเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด และยังพบว่ามีการจัดทำใบชั่งน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งใบ โดยใช้โปรแกรม Microsoft Excel ซึ่งมีค่าน้ำหนักชั่งรถหนักน้อยกว่าโปรแกรมชั่งน้ำหนักที่ใช้กับเครื่องชั่ง และยังพบว่า ลานรับซื้อหาดพันไกรลานปาล์มหรือพันไกรปาล์ม ไม่มีการแสดงราคารับซื้อตามอัตราเปอร์เซ็นต์น้ำมันและไม่แสดงอัตราการปรับราคารับซื้อเพิ่มขึ้นหรือลดลงและไม่จัดทำบัญชีคุมสินค้าแสดงชนิด ประเภท ขนาด น้ำหนัก ต่อหน่วยให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ตั้งแต่วันรับซื้ออีกด้วย
         
“เท่าที่ตรวจสอบพบ มีการโกงน้ำหนัก โดยผลจากการชั่ง น้ำหนักหายไปถึงตันละ 200-300 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบเกษตรกรเป็นอย่างมาก ซึ่งกรมฯ จะดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด และหากเกษตรกรชาวสวนปาล์มพบเห็น หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการรับซื้อผลปาล์ม ให้ร้องเรียนมาได้ กรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และหากพบผิด ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”นายวิชัยกล่าว
         
นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตเป็นไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางประกงนั้น ขณะนี้ได้ผู้ขายน้ำมันปาล์มดิบให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แล้ว 7.5 หมื่นตัน จาก 28 ราย จะส่งให้ กฟผ. ที่ท่าเรือบางประกงเริ่มสัปดาห์หน้า และส่วนที่เหลืออีก 8.5 หมื่นตัน จะขยายเวลาให้เสนอขายต่อไป คาดว่าภายในสิ้นเดือนม.ค.2562 จะได้ครบตามจำนวน และเมื่อตกลงขายให้ กฟผ.แล้ว น้ำมันปาล์มดิบจำนวนนี้ จะถูกล็อคแท้งก์ ห้ามเอาออก นอกจากส่งให้ กฟผ. ซึ่งจะทำให้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบที่มีอยู่ 3.4-3.5 แสนตัน ลดลงเหลือต่ำกว่า 2 แสนตันทันที ทำให้สต๊อกกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และจะส่งผลให้ราคาผลปาล์มดิบขยับสูงขึ้นตามเป้า 3.20-3.50 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ได้แน่นอน
         
อย่างไรก็ตาม ที่มองว่าราคามีโอกาสขยับเพิ่มขึ้น เนื่องจากโรงงานสกัดที่ขายน้ำมันปาล์มดิบให้ กฟผ. จะได้รับเงินทันที 85% ของปริมาณที่ขาย ส่วนอีก 15% จะได้รับหลังจากไปรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกร โดยสัดส่วน 1.6 แสนตัน ต้องซื้อปาล์มดิบเกือบ 1 ล้านตัน ซึ่งแต่ละพื้นที่รับซื้อไม่เท่ากัน เช่น ชุมพรและสุราษฎร์ธานี ต้องซื้อกก.ละ 3.20 บาท ยะลา ปัตตานี กก.ละ 3.00-3.20 บาท เป็นต้น และเมื่อรับซื้อแล้ว ก็ให้นำหลักฐานไปเบิกเงินจาก กฟผ. ในส่วนที่เหลือต่อไป  

***ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit

 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง