ธุรกิจทำเว็บเพจบูม 11 เดือนตั้งใหม่พุ่ง 46.01% รับกระแสการค้าขายออนไลน์เติบโต

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยธุรกิจจัดทำเว็บเพจโตแรง ยอดจัดตั้งธุรกิจในช่วง 11 เดือน มีจำนวน 238 ราย เพิ่มขึ้น 46.01% รับกระแสการค้าขายผ่านทางออนไลน์เติบโต พร้อมแนะธุรกิจทำเว็บเพจต้องปรับตัว สู้เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ที่หันมาทำร้านครบวงจรให้บริการ

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า สถิติการจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ของธุรกิจการจัดทำเว็บเพจช่วง 11 เดือน ของปี 2562 (ม.ค.-พ.ย.) มีจำนวน 238 ราย เพิ่มขึ้น 46.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.45% ถือเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งจำนวนรายและมูลค่าทุน และยังสอดคล้องกับการขยายตัวของผู้ใช้และผู้ให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ (อีคอมเมิร์ซ) ที่เพิ่มมากขึ้นในปี 2561

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเว็บเพจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีผลประกอบการเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 4,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 22.32% ต่อปี และมีกำไรต่อปีเฉลี่ย 262 ล้านบาท เป็นผลจากการค้าอีคอมเมิร์ซ ทำให้มูลค่าการขายสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ตขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยปี 2560 มีมูลค่าอยู่ที่ 2.81 ล้านล้านบาท และคาดว่าปี 2561 มูลค่าการค้าและบริการอีคอมเมิร์ซจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.06 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.76% ส่งผลให้ธุรกิจการจัดทำเว็บเพจขยายตัวตาม เพื่อรองรับการขายและให้บริการในช่องทางออนไลน์ต่างๆ

นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากการที่รัฐบาลมีนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อผลักดันให้ประเทศเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ เช่น นโยบายเน็ตประชารัฐ ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้การดำเนินธุรกิจของประเทศสามารถเปลี่ยนผ่านจากระบบออฟไลน์สู่ระบบออนไลน์ เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจจัดทำเว็บเพจมีโอกาสเติบโตและขยายกลุ่มลูกค้าได้อีกมาก ทำให้คาดว่ารายได้ของธุรกิจกลุ่มนี้จะเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี

นายวุฒิไกรกล่าวว่า ธุรกิจการจัดทำเว็บเพจอาจต้องเตรียมความพร้อมรับมือการปรับเปลี่ยนของโซเซียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ที่เริ่มหันมาจัดกลุ่มลูกค้าทางธุรกิจ โดยการเพิ่มบริการใหม่ๆ เช่น การทำหน้าร้านแบบครบวงจรผ่อนแอปพลิเคชั่น และการลงโฆษณาโปรโมทเพจ ดังนั้น ธุรกิจจัดทำเว็บเพจควรสร้างจุดแข็งในด้านความน่าเชื่อถือ เน้นการออกแบบพัฒนาที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของลูกค้า และนำเทคโนโลยี เช่น เอไอมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาเว็บเพจ เพื่อสร้างความแตกต่างและรักษาส่วนแบ่งตลาดต่อไป

ปัจจุบัน มีธุรกิจจัดทำเว็บเพจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 พ.ย.2561) จำนวน 1,407 ราย คิดเป็นสัดส่วน 0.20% ของธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมดในไทย มูลค่าทุน 3,316 ล้านบาท คิดเป็น 0.02% ของธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมดในไทย โดยธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบบริษัทจำกัด 1,300 ราย คิดเป็นสัดส่วน 92.40% มูลค่าทุน 3,203 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 96.57% ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท สูงถึง 95.02% ขณะที่การกระจายตัวของธุรกิจการจัดทำเว็บเพจ พบว่า อยูในพื้นที่กรุงเทพฯ มากสุดคิดเป็น 59.55% รองลงมา คือ ภาคกลางและภาคใต้

ด้านการลงทุนของต่างชาติในนามนิติบุคคลไทย (ถือหุ้นไม่เกิน 49.99%) มีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 578.40 ล้านบาท โดยต่างชาติที่มีการลงทุนมากสุด ได้แก่ ลักเซมเบิร์ก 84.97 ล้านบาท รองลงมา คือ ญี่ปุ่น 80.91 ล้านบาท และสิงคโปร์ 68.54 ล้านบาท เนื่องจากไทยมีการขยายตัวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น จึงดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพทางเทคโนโลยีทั้งในยุโรปและเอเชียให้เข้ามาลงทุนในไทย

***ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit  

 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง