“พาณิชย์”แจงเหตุข้าวเจ้า ข้าวปทุมธานี ราคาอ่อนตัว เหตุฝนตก ผู้ประกอบการอาจชะลอการรับซื้อ และการขนข้าวลงเรือเพื่อส่งออกก็ทำได้ล่าช้า แต่ไม่ได้เกิดจากปัญหาส่งออกชะลอตัว ไทยยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่วนครึ่งปีหลัง กำลังเจรจาขายจีทูจีจีนแสนตันที่ 6 อินโดนีเซีย บังคลาเทศ แอฟริกา จ่อนำเข้าเพิ่ม เผยยังมีแผนจัดคณะเจรจาขายข้าวในสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย มั่นใจส่งออกปีนี้ 10 ล้านตันทำได้แน่  
         
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาข้าวเจ้า และข้าวปทุมธานี มีแนวโน้มอ่อนตัวลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เป็นเพราะอาจมีผู้ประกอบการชะลอการรับซื้อข้าว เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตก ส่งผลให้การขนย้ายข้าวลงเรือเพื่อส่งออกล่าช้าไปบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติ เพราะการส่งออกข้าวของไทยตั้งแต่ต้นปี มีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ทั้งจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน และฟิลิปปินส์ ทั้งในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) รัฐบาลต่อเอกชน (จีทูพี) และเอกชนต่อเอกชน (พีทูพี) ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อปริมาณมากมารองรับผลผลิตข้าวไทยอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนส.ค. และขณะนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างการส่งมอบข้าวตามคำสั่งซื้อ
         
ส่วนสถานการณ์การส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีคำสั่งซื้อข้าวแบบจีทูจีจากรัฐบาลจีน ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้ประสานกับ COFCO Corporation เพื่อเริ่มเจรจาซื้อข้าวในงวดที่ 6 ปริมาณ 1 แสนตันแล้ว โดยมีกำหนดส่งมอบข้าวในเดือนส.ค.-ก.ย.2561 และคาดว่าตลาดอินโดนีเซีย บังคลาเทศ และแอฟริกา ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ยังมีความต้องการนำเข้าข้าวจากภาคเอกชนไทยเพิ่มขึ้น ทำให้มีคำสั่งซื้อมารองรับผลผลิตข้าวที่จะออกในช่วงปลายปีด้วย

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังมีแผนจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชนเดินทางไปเจรจาขยายตลาดข้าวและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญในภูมิภาคต่างๆ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา และออสเตรเลีย เพื่อกระตุ้นและผลักดันการส่งออกข้าวไทย เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวหอมนิล ข้าวสังข์หยด และข้าว กข43 ให้เพิ่มมากขึ้น จึงมั่นใจว่าการส่งออกข้าวไทยในปี 2561 จะบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10 ล้านตันอย่างแน่นอน

“ขณะนี้อยู่ในช่วงนาปรัง 2561 ได้มีการเก็บเกี่ยวไปแล้วในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.2561 ประมาณ 86.73% ของพื้นที่เพาะปลูก หากเทียบกับความต้องการข้าวจากต่างประเทศข้างต้น ไม่น่าจะมีเหตุผลที่ราคาข้าวจะลดลง แต่เพื่อประเมินสถานการณ์ปริมาณข้าวที่มีทั้งของเกษตรกรและผู้ประกอบการทั้งระบบ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ตรวจสอบปริมาณข้าวในสต็อกของผู้ประกอบการค้าข้าว ทั้งผู้ส่งออกที่ต้องดำรงสต็อกตามกฏหมายและผู้ประกอบการโรงสี โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.2561 เพื่อให้ทราบปริมาณข้าวที่แท้จริง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการกำหนดมาตรการทางการตลาดปัจจุบันและสำหรับฤดูการผลิต ปี 2561/62 ในปลายปีต่อไป”น.ส.ชุติมากล่าว