“พาณิชย์”ช่วยเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมภาคเหนือ จัดเชื่อมโยงตลาดนำผลผลิตมาจำหน่ายที่ตลาด อ.ต.ก.เผยได้รับความสนใจจากประชาชนเข้ามาซื้อกันอย่างล้นหลาม และขายได้ราคาดีถึงกิโลกรัมละ 80 บาท เผยยังได้ช่วยกระจายผลผลิตลิ้นจี่จากแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภคในเมืองกรุงด้วย

นายวิชัย โภชนกิจ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในจังหวัดต่างๆ เตรียมความพร้อมรับมือกับผลผลิตทางการเกษตรที่ออกสู่ตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันปัญหาราคาตกต่ำในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก โดยล่าสุดสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ได้ทำการประสานนำผลผลิตกระเทียมแห้ง คัดเกรดมัดจุกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำไปจำหน่ายยังองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เพื่อช่วยระบายผลผลิต และเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกร

ทั้งนี้  ในการจำหน่ายได้ตั้งราคาไว้ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 80 บาท ปรากฏว่า มีประชาชนได้ให้ความสนใจเข้ามาซื้อกันเป็นจำนวนมาก เพราะผลผลผลิตมีคุณภาพดี และยังมีหน่วยงานอื่นๆ ที่สนใจจะทำคำสั่งซื้อ เช่น สมาคมแม่บ้านทหารบก รวมถึงมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่สนใจจะสั่งซื้อด้วย โดยอยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียด

“การดำเนินการในครั้งนี้ ได้ช่วยให้เกษตรกรได้เกิดการเรียนรู้ถึงระบบตลาด และผลต่างราคาที่เกษตรกรจะได้รับ เพราะหากผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ มาตรฐาน ตรงตามความต้องการของตลาด ก็จะขายได้ราคาดีกว่าปกติ และยังช่วยให้เกษตรกรได้มีโอกาสในการพบปะเจรจาการค้ากับกลุ่มผู้ค้าซึ่งจะช่วยสร้างเครือข่ายและเตรียมการรองรับผลผลิตในฤดูกาลต่อไปด้วย”นายวิชัยกล่าว

นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับผลไม้ลิ้นจี่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา ได้เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ปลูกลิ้นจี่ โดยช่วยกระจายลิ้นจี่คุณภาพ ซึ่งเป็นลิ้นจี่ที่ใช้กระดาษห่อผลสดก่อนเก็บเกี่ยว ทำให้ผิวสวย รสชาติหวานหอม กรอบ อร่อย เนื้อแห้ง สู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยสามารถจำหน่ายได้ราคาขายปลีก 80 -120 บาท/กก. โดยมีพื้นที่จำหน่ายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ SCB , กระทรวงพาณิชย์ , กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ , TOT สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะ เป็นต้น โดยมียอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่วันที่ 21-22 พ.ค.2561 ปริมาณ 1,570 กก. มูลค่า 156,000 บาท