ไทยเบียดอินเดียขึ้นเบอร์ 1 ส่งออกข้าวโลก หลัง 4 เดือนส่งออกได้ 3.5 ล้านตัน เผยยังสามรถขายข้าวได้ราคาดีทุกชนิด คาดแนวโน้มดีขึ้นต่อ เหตุตลาดเป็นของผู้ขาย มีออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง ระบุยังมีแผนที่จะจัดคณะผู้แทนการค้าออกไปขยายตลาด เข้าร่วมงานแฟร์และจัดกิจกรรมโปรโมตข้าวไทย พร้อมปรับเป้าทั้งปีใหม่เป็น 10 ล้านตัน  
         
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 4 เดือนของปี 2561 (1 ม.ค.-17 เม.ย.) มีปริมาณ 3.58 ล้านตัน ลดลง 3.47% แต่ยังเป็นการส่งออกที่แซงหน้าประเทศคู่แข่งอย่างอินเดียขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยอินเดียส่งออกได้ปริมาณ 3.21 ล้านตัน เวียดนาม 1.61 ล้านตัน และปากีสถาน 1.28 ล้านตัน ขณะที่มูลค่าทำได้ 1,783 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.54% โดยราคาข้าวส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ 497.39 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่เฉลี่ยอยู่ที่ 419.19 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 80 เหรียญสหรัฐต่อตัน
         
“ราคาข้าวของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ มีราคาสูงถึง 1,150 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่สูงมาก และคาดว่าแนวโน้มราคาน่าจะดีต่อไป เพราะขณะนี้ตลาดเป็นของผู้ขาย หลายประเทศมีความต้องการซื้อข้าวไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าปีนี้ไทยจะส่งออกได้เกินไปจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 9.5 ล้านตัน โดยได้ปรับเป้าใหม่เป็น 10 ล้านตัน มูลค่า 4,525 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.58 แสนล้านบาท และตั้งเป้ากลับมาเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลกให้ได้”นายอดุลย์กล่าว
         
ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะช่วยให้ไทยส่งออกข้าวได้เพิ่มขึ้นมาจาก การที่จีนกำลังอยู่ระหว่างการรับมอบข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 1 แสนตันที่ 5 ภายใต้สัญญา 1 ล้านตัน ที่คาดว่าจะรับมอบเสร็จภายในเดือนพ.ค.นี้ และจะผลักดันให้มีการรับมอบข้าว 1 แสนที่ 6 ต่อไป รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ยังได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลจีนเพื่อให้เซ็นสัญญาซื้อข้าวจีทูจีล็อตใหม่อีก 1 ล้านตัน คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ และยังมีข้าวที่ไทยชนะประมูล เพื่อส่งให้ฟิลิปปินส์อีก 1.2 แสนตัน ส่งมอบพ.ค.-มิ.ย.2561 อินโดนีเซีย 2 แสนตัน ส่งมอบพ.ค.2561 และญี่ปุ่น 6.6 หมื่นตัน ส่งมอบเม.ย.-ส.ค.2561
         
ขณะเดียวกัน กรมฯ ยังมีแผนที่จะจัดคณะผู้แทนการค้าออกไปขยายตลาดข้าวไทยและประชาสัมพันธ์ข้าวไทย เช่น จัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนไปอินโดนีเซียและมาเลเซีย 7-9 พ.ค.2561 สเปนและฝรั่งเศส 12-19 พ.ค.2561 สหรัฐฯ และแคนาดา เดือนก.ค.2561 ฮ่องกงและสิงคโปร์ เดือนส.ค.2561 และเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศเพื่อโปรโมตข้าวไทย โดยที่ไปมาแล้ว เช่น Biofach ที่เยอรมนี Gulfood ที่สหรัฐอาหารับเอมิเรตส์ และกำลังจะเข้าร่วมงาน China - ASEAN Expo ที่จีน ส่วนในประเทศ เช่น งาน THAIFEX งาน ONE และงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ
         
นอจากนี้ ยังได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายข้าวไทยในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ภัตตาคาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวม 14 โครงการ ในตลาดสำคัญทั่วโลก เช่น จีน ไต้หวัน สเปน อิตาลี เยอรมนี สหราชาอาณาจักร สหรัฐฯ แคนาดา เม็กซิโก เปรู และชิลี เป็นต้น

นายอดุลย์กล่าวว่า สำหรับการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่ยังคงเหลือนั้น ข้าวกลุ่ม 1 ซึ่งเป็นข้าวที่คนบริโภค ปริมาณ 4.4 หมื่นตัน จะประกาศรายละเอียดทีโออาร์การประมูลในวันที่ 7 พ.ค.2561 ส่วนกลุ่ม 2 ซึ่งเป็นข้าวที่ไม่ใช่เพื่อการบริโภคของคน 1.5 ล้านตัน และกลุ่ม 3 ข้าวเข้าอุตสาหกรรม 5 แสนตัน กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำทีโออาร์การประมูล หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้อนุมัติให้มีการเปิดประมูลแล้ว คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเร็วๆ นี้